วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

รับสมัครเรียนลายมือหลักสูตรมืออาชีพ



รับสมัครเรียนลายมือหลักสูตรมืออาชีพ

เปิดรับสมัครเรียน ประจำปี 2557 รุ่น 2/2557
รับจำนวนจำกัด ไม่เกิน 10 คนต่อรุ่น
 อ.ธนพงศ์  หลักนครพล สอนเรียนลายมือ
ตั้งแต่บัดนี้  ถึง 5 กรกฎาคม 2557
 เริ่มเปิดการเรียนการสอนรุ่น 2/2557 ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่  6 กรกฎาคม 2557


 
 

หลักสูตรมืออาชีพ 5,999.บาท(พร้อมชุดสื่อการเรียน)
  •    เรียน 3 เดือน  7  สัปดาห์ รวม 21 ชั่วโมง
 
ฟรี ชุดสื่อการเรียนประกอบด้วย คู่มือหนังสือเรียนลายมือ+DVDบรรยายประกอบบทเรียนแต่ละบท+CDต้นฉบับหนังสือภาพสีและคลิปตัวอย่างการวิเคราะห์ลายมือ
**ฝึกงานตอบปัญหาจากลายมือจริง
**ฝึกงานออกงาน Event ดูลายมือ


คลิปตัวอย่าง บรรยากาศการเรียนการสอนจริง


หนังสือเรียนลายมือแบบ Ebooks ราคา 199 บาท

เรียนโดยพบกันหลักสูตรมืออาชีพ

บรรยากาศการเรียนการสอน เรียนกลุ่มไม่เกิน 10 คน
สอนด้วยภาพลายมือจริงคมชัดผ่านจอ LED 
บรรยากาศสถานที่และห้องเรียน-กว้างขวางสะดวกสบาย รุ่น 1/2556

 บรรยากาศสถานที่และห้องเรียน-กว้างขวางสะดวกสบาย รุ่น 2/2556

ฝึกงานจริงด้วยการออกงานการกุศล และตอบปัญหาลายมือฟรีทางเวปบอร์ด
ผู้เข้าเรียนลายมือเมื่อจบหลักสูตรแล้ว มีโอกาสได้ฝึกปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มพูนทักษะในการดูลายมือ ด้วยการออกงานดูลายมือจริง
ท่านแม่ชีอนันตา นาคบุญ ประธานดำเนินการก่อสร้างรันตนประสาทของมูลนิธิสถาบันแม่ชีไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์
รับมอบรายได้จากการดูลายมือเพื่อการกุศลให้กับสถาบันแม่ชีไทย ฯ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2556
 
 ผู้เรียนลายมือหลักสูตรมืออาชีพรุ่น 1/2556 และ 2/2556  ร่วมงานขั้นตอนปฏิบัติด้วยการดูลายมือเพื่อการกุศล ที่สถาบันแม่ชีไทยฯ  ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีการของการเรียนการสอนตามหลักสัทธรรม 3 คือ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวท เป็นการเพิ่มประสบการณ์ให้หลากหลายด้วยประสบการณ์จริง


  DVDเรียนลายมือ มีตัวอย่างลายมือจริงและบรรยายภาพวิเคราะห์ลายมือ
ประกอบด้วยการบรรยายสรุปบทเรียน,มีตัวอย่างภาพลายมือจริงจำนวนมากเพียงพอให้ศึกษาเปรียบเทียบ และตัวอย่างการวิเคราะห์ลายมือแบบต่าง ๆ เพื่อให้ได้เรียนรู้และทดสอบความเข้าใจ



 
โครงสร้างบทเรียนหลักในการเรียนประกอบด้วย
7บทหลัก และ16 บทเรียนหัวข้อย่อย ดังนี้
1.ลักษณะมือและนิ้วมือ  
    1.พื้นฐานนิ้วมือ
    2.พื้นฐานเล็บมือ
2.ประเภทของมือ  
    3.พื้นฐานลักษณะมือแบบต่าง ๆ
3.โครงสร้างของมือ  
    4. โครงสร้างหลักของมือและเนินต่าง ๆ ในมือ
4.เส้นลายมือ
    5.เส้นหลักในมือ
    6.เส้นรองในมือ
    7.เส้นจร เส้นเชื่อมต่าง ๆ
5.เครื่องหมายและเส้นอิทธิพลในมือ  
    8.เส้นอิทธิพลต่าง ๆ     
    9.เครื่องหมายในมือ
6.การเชื่อมโยงลายมือ  
    11.หลักในการพยากรณ์ 
    12.หลักการวิเคราะห์ลายมือ
7.การวิเคราะห์ลายมือ
    13.การวิเคราะห์ลายมือรวม 1
    14.การวิเคราะห์ลายมือรวม 2
    15.การวิเคราะห์ลายมือขั้นสูง 1
    16.การวิเคราะห์ลายมือขั้นสูง 2

   
  (หมายเหตุ ตารางเวลาเรียนจะปรับใหม่ตามเงื่อนไขที่แจ้ง -ในภาคเรียน 1/2557 เริ่มเรียน 16 กุมภาพันธุ์ 2557 แต่เนื้อหาการเรียนยังเป็นไปตามเดิม)

  สอบถามเพิ่มเติม  Line Id:handhoro99 
หรือโทร: 092 494 5445 ; 089 533 9903
ขอรายละเอียดเพิ่มเติมทางemail:handhoro99@gmail.com




 สถานที่เรียน
           
  อาคาร ศูนย์พัฒนาการแพยท์แผนไทย(โพธิสาร)  อยู่ขวามือ 50 เมตร จากปากซอย ถ.จรัญ ฯ ซอย 96/1


 หลักสูตรมืออาชีพ
     เรียนโดยพบกันประมาณ 3 เดือน ( 7 สัปดาห์ - 21 ช.ม.)
  • คู่มือหนังสือเรียนพร้อม DVD การเรียนด้วยตัวเอง มีตัวอย่างภาพลายมือจริงและตัวอย่างการวิเคราะห์ประกอบการ เรียนการสอน
  • เข้า ห้องเรียน วันอาทิตย์ สัปดาห์เว้นสัปดาห์ มี Workshop และการวัดผลเป็นรายคน พบกัน 7 ครั้ง 21 ชั่วโมง (ที่ห้องอบรมสัมนา สมาคมแพทย์แผนไทย ถนนจรัลจรัญสนิทวงศ์ ซอย 96/1)
  • คู่มือหนังสือเรียนพร้อม DVD รวมค่าจัดส่ง 5,999.-บาท 
  • รับจำนวนจำกัดไม่เกิน 10 คน ต่อ 1 ภาคเรียน


      
ข้อด้อยที่พบในการเรียนรู้ดูลายมือแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ
หรือเข้าใจยาก ก็ เพราะส่วนมากขาดตัวอย่างลายมือจริงและการฝึกฝนจากลายมือตัวอย่างลายมือจริงที่มากพอ  จากประสบการณ์จริงที่ประสบมาในการเรียนการสอนลายมือส่วนใหญ่จะใช้ภาพขาวดำ รวมถึงภาพพิมพ์ลายมือ เส้นสายลายมือก็ใช้วิธีขีดเขียน ลากเป็นเส้นสมมุติขึ้นเอง พอเจอลายมือจริงหรือดูลายมือจริง ๆ เข้าก็ งง.. ? ไม่แน่ใจ..?
     หลายคนที่เรียนลายมือกับหลายครู หลายอาจารย์ก็แล้ว  แต่ก็ยังไม่สามารถพยากรณ์ ลายมือได้ ทำไม จึงเป็นเช่นนั้น   หากทบทวนและวิเคราะห์ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้นก็พอจะหาคำตอบได้ว่า ขาดพื้นฐานการเรียนที่ถูกต้อง  ขาดตัวอย่างลายมือจากมือจริง  ขาดการทดสอบและลงมือปฏิบัติจริงหรือฝึกฝน (Practice) ที่มากพอ   ดังหลักธรรมะที่ว่าจะทำอะไรให้ได้ผลสำเร็จต้องเป็นไปตามหลักและครบขั้นตอนคือ 1. ปริยัติ (เรียนทฤษฎี) 2.ปฏิบัติ (ลงมือปฏิบัติจริง) 3.ปฏิเวธ  (ผลที่เกิดจากการปฏิบัติ) นั่นคือการฝึกฝนและลงมือปฏิบัติที่มากย่อมทำให้เกิดความมั่นใจ หรือความเชื่อมั่น(Confidence) กระบวนการทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าเห็นข้อด้อยและข้อบกพร่องของทั้งผู้สอนและผู้เรียน   จึงเห็นว่าการเรียนที่ได้ผลต้องนำลายมือจริงและมีจำนวนตัวอย่างมากเพียงพอ ที่จะทำให้ผู้ที่สนใจในศาสตร์นี้ได้เล่าเรียน จากพื้นฐาน และนำไปฝึกฝนทดสอบจนเกิดความชำนาญ  และเมื่อเรียนจบแล้วก็สามารถพยากรณ์ลายมือได้จริง   ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับตนเองในเบื้องต้น และคนในครอบครัว  รวมถึงคนใกล้ชิด เพราะในลายมือมีสัญญาณเตือน ที่สามารถบอกได้ถึงสภาวะปัจจุบัน และเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต   ซึ่งท่านสามารถให้คำแนะนำที่จะกระทำ หรือหลีกเลี่ยง รวมถึงงดเว้นการกระทำในแต่ละช่วงเวลา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในช่วงเวลาที่โชคดี  หรือผ่อนหนักให้เป็นเบาในช่วงเวลาที่ต้องพบกับปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ  แต่อีกหลาย ๆ ท่านก็อาจตั้งใจเรียนไว้เพื่อรู้ดูเป็นได้พอประมาณก็เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวอีกอย่างหนึ่ง
    นอกจากนั้นผมยังมี DVD ตัวอย่างลายมือจำนวนมากพอ พร้อมตัวอย่างการวิเคราะห์ เพื่อให้ท่านสามารถนำไปฝึกฝนฝึกทบทวนหรือวิเคราะห์ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจจนแตกฉาน หรือเชี่ยวชาญในการดูลายมือ สามารถพัฒนาเป็นนักพยากรณ์ลายมือได้ตั้งแต่สมัครเล่นหรือจนกระทั่งสามารถนำไปใช้ประกอบเป็นอาชีพได้.

        
หลักการและพื้นฐานการเรียนลายมือ  คือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเรียนต้องจำให้ได้เป็นหลักเบื้องต้นที่สำคัญที่จะละเลยไม่ได้   ก่อนอื่นต้องยอมรับความจริงก่อนว่าไม่มีอะไรง่ายในการที่จะเรียนและรู้จนเข้าใจได้ถ่องแท้   แต่ก็ไม่มีอะไรยากเกินกว่าที่จะเรียนและเข้าใจได้  พื้นฐานในการเรียนรู้ทุกวิชา ทุกสาขาที่จะเรียนรู้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเริ่มต้นด้วยหลักการที่ถูกต้อง   ยกเป็นกรณีตัวอย่างคือในการที่จะเรียน เขียนอ่านภาษาใด ๆ สิ่งที่ต้องเรียนและต้องจดจำให้ได้ก่อนก็คือตัวอักษร หรือพยัญชนะ  สระ และองค์ประกอบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงวรรณยุกต์ หรือเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เจ้าของภาษากำหนดให้ไว้  นี้คือสิงที่ต้องจดจำและต้องจำให้ได้ทั้งหมดไม่มีข้อยกเว้น (ส่วนใครจะจำได้ช้า ได้เร็ว หรือมีวิธีการจำอย่างไร ก็เป็นเรื่องเฉพาะตัว-สุ จิ ปุ ลิ คือหลักในการเรียนรู้ที่ดีที่สุด)  จากนั้นก็จึงค่อยไปผสมอักษรให้เป็นคำ เป็นประโยค และในที่สุดก็เขียนเป็นบทความ เป็นเรื่องราวได้สื่อสารได้  ส่วนจะเขียนได้ดี ให้น่าอ่าน น่าติดตาม ด้วยสำนวนโวหารหรือใด ๆ ก็ตามก็ต้องฝึกฝนเพิ่มขึ้นจึงจะทำเช่นนั้นได้
"ต้นไม้ จะสูงใหญ่เจริญขึ้นและคงอยู่ได้ด้วยรากฐานที่แข็งแรง   การเริ่มต้นใด ๆ ฐานรากเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญที่สุด  การเรียนรู้เรื่องใด ๆ ก็ต้องเป็นไปตามกฎของธรรมชาติเริ่มจากน้อยไปมาก เริ่มจาก 1..2..3..... การเรียนลายมือก็ไม่มีข้อยกเว้น"
ในเบื้องต้นก่อนตัดสินใจเรียน พึงตระหนักว่าการเรียนการสอนมีความเกี่ยวข้องกัน 3 ส่วนคือ    1. องค์ความรู้   2. ครูผู้สอน----> 3 ผู้เรียน
และผู้ที่จะเรียนลายมือต้องตั้งคำถามหรือสร้างเงื่อนไขกับตัวเองไว้ 5 คำถาม ดังนี้
1.ใครคือเราในอนาคต(อยากเรียนรู้ไว้หรือยากเป็นหมอดูลายมือ) ใครคือคนที่จะสอนวันนี้(who)
   คนที่ตั้งใจเรียนทำอาหารเพื่อไปเปิดร้านอาหารทำอาหารขาย กับคนที่เรียนเพื่อไปทำอาหารทานเอง ความใส่  ใจความตั้งใจย่อมแตกต่างกันมาก  การเรียนลายมือหรือการเรียนรู้ใด ๆ ก็คงเทียบเคียงได้ในหลักการนี้ ครูอาจารย์ผู้ให้คำแนะนำ สื่อการเรียนการสอนก็ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จำต้องนำมาพิจารณาประกอบ
"ผมตั้งใจให้ทุกคนที่เรียนได้รับความรู้จริง เริ่มตั้งแต่เป็นมือสมัครเล่น จนกระทั้งพัฒนาสู่มืออาชีพ"
2.อะไรคือเป้าหมายและอะไรที่เราจะได้จากการเรียน (what)
   การไปเชียงใหม่กับภูเก็ต สถานที่ท่องเที่ยวและบรรยากาศย่อมแตกต่างกันต้องตัดสินใจเลือก แม้จะมีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวพักผ่อน แต่ทิศทางหรือวิธีการไปก็แตกต่างในรายละเอียดและผลรับย่อมแตกต่างกัน
"ท่านที่เรียนต้องมีเป้าหมายไว้ในใจ แล้วท่านจึงจะได้ตามที่ตั้งใจไว้"
3.เวลาที่จะเรียนมีพอหรือไม่ จะเรียนเมื่อไหร่ดี (when)
    ความต่อเนื่องของการเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ๆ จำเป็นและสำคัญของผู้เรียน จึงควรเลือกหลักสูตรที่มีเวลาเหมาะสมกับตัวเอง ไม่อย่างนั้นจะเป็นการเสียเวลาไปเปล่าไม่ได้อะไรกับเวลาและทุนที่เสียไป
"เรียนเอง  เรียนทางเนท เรียนโดยพบกัน  ผลได้ย่อมแตกต่างกัน แต่เวลาก็และระยะทางก็เป็นหนึ่งปัจจัยกำหนด"
4.สถานที่ที่จะเรียนสะดวกหรือไม่ (where)
    สถานที่กับเวลาเป็นเรื่องสำคัญและสัมพันธ์กันอย่างมากของแต่ละคน เลือกอะไรที่่เหมาะที่่ใช่ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตร เรียนเอง  เรียนทางเนท หรือจะไปเรียนด้วยตัวเอง
"ผมคำนึงและตระหนักในเรื่องนี้มาก เรียนโดยพบกันมีห้องเรียนที่ดี มีสื่อการสอนที่พร้อม แต่ก็ไม่ละเลยในกรณีที่ท่านเรียนทางเนท  หรือเรียนด้วยตัวเอง"
5.ทำไมจึงเรียนลายมือ(มีศาสตร์พยากรณ์มากมาย)  เรียนไปทำไม (why)
    ลองย้อนไปอ่านทวนในข้อ 1 ที่ว่าใครคือเราหลังจากเรียนวิชาลายมือแล้ว  แต่ละคนอาจมีเป้าหมายในการเรียนไม่เหมือนกัน บางคนก็เรียนรู้เพื่อรู้ บางคนก็เรียนรู้ไว้เพื่อดูได้แบบสนุก ๆ เพิ่มสีสันต์  บางคนก็ต้องการเรียนรู้เพื่อการประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์ใด  ก็ต้องตั้งคำถามและมีคำตอบให้ตัวเองให้ได้ว่า ทำไม จึงอยากเรียนลายมือทั้งที่มีศาสตร์ในการพยากรณ์อีกมากมาย   
"ลายมือเป็นศาสตร์พยากรณ์ที่เป็นเรื่องเฉพาะตัวของแต่ละคน แม้คนที่เกิดเวลา วัน เดือน ปี เดียวกัน หรือฝาแฝด การพยากรณ์ก็แตกต่างกันไปตามเส้นสายลายมือที่ปรากฏ"
“รักในสิ่งที่เรียน  เพียรในสิ่งที่ทำ จิตมุ่งมั่น  หมั่นทบทวน” คือหัวใจของความสำเร็จตามหลักอิทธิบาท 4 คือต้องรักชอบและพอใจในสิ่งที่เรียนก่อนเป็นเบื้องต้น แล้วก็ตัดสินใจคือชอบใจเรียน 1(ฉันทะ),  ตั้งใจเรียน 2(วิริยะ), ฝืนใจและใส่ใจเรียน 3(จิตตะ), เข้าใจเรียน หรือเรียนให้เข้าใจ 4(วิมังสา)
มื่อทบทวนถามตอบคำถาม 5 ข้อดีแล้ว ยังมีความตั้งใจที่เรียนลายมืออยู่  ก็ติดตามต่อเงื่อนไขก่อนการตัดสินใจอีกครั้งในข้อ 6 
6.เรียนอย่างไร (how) มีวิธีเรียนที่เรียนแล้วได้ผล เรียนแล้วดูลายมือได้จริง ๆ หรือไม่
   สำคัญมากในเรื่องการเรียนอย่างไร  มีหลักสูตรอย่างไร  มีวิธีการเรียนการสอน และสื่อประกอบการเรียนการสอนที่เอื้อให้เกิดผลสำเร็จตามที่ตั้งใจหรือคาดหวังไว้ได้หรือไม่ แล้วก็ตัดสินใจและเริ่มต้น 
"Learning by doing หรือการเรียนโดยการฝึกปฏิบัติและลงมือทำจริง ๆ จากตัวอย่างจริง ๆ คือวิธีการเรียนการสอนที่ได้ผลมากที่สุด"

  
  ผมตั้งบทเรียนลายมือไว้ทั้งหมด 7 บทเรียนหลัก (7 หมวด)กับ 16 บทเรียนย่อย  เพื่อเรียนรู้ คือ
“การเรียนรู้ก็เปรียบได้กับการนำน้ำจากภาชนะใหญ่เพื่อกรอกเข้าไปในขวดที่ปากแคบ ต้องตักกรอกเข้าไปทีละน้อย”
  7 หมวดของข้อมูลเพื่อการเรียนลายมือ
      หมวดที่ 1.เรียนรู้นิ้วมือและเล็บมือ (นิสัย ความคิด การตัดสินใจ)
      หมวดที่ 2.เรียนรู้ประเภทหรือลักษณะมือ (บุคลิกลักษณะเฉพาะตัว วิสัยทัศน์ การแสดงออก)
      หมวดที่ 3.โครงสร้างของมือ เรียนรู้เนินในมือ (พลังขับเคลื่อน และพื้นฐานความต้องการทางกายภาพ ผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม)
      หมวดที่ 4.เรียนรู้เส้นลายมือ เส้นหลัก ลายมือเส้นรอง (ทางโน้มของการดำเนินชีวิตไปสู่เป้าหมาย ความสุข ความสำเร็จ ความทุกข์ ความผิดหวัง..)
     หมวดที่ 5.เรียนรู้เส้นอิทธิพลและเครื่องหมายในมือ (การส่งเสริม หรือปัญหาอุปสรรคของการดำเนินชีวิต)
     หมวดที่ 6.การเชื่อมโยงลายมือ สรุปเรื่องราวจากแผนที่ในมือ การนับอายุในมือ (ข้อบ่งชี้ว่าด้วยเงื่อนเวลาที่เหตุดีหรือร้ายจะแสดงผลในแต่ละช่วงอายุ)
     หมวดที่ 7.การวิเคราะห์ลายมือ(การชี้ชัดในเรื่องใด ๆ มีองค์ประกอบใดที่ต้องพิจารณาสนับสนุน)
เหตุดีเหตุร้ายจะเกิดขึ้นเมื่อใด พยากรณ์เป็นรายเดือน  เป็นรายปี
ทั้ง 7 หมวดนี้ จะได้จัดการเรียนการสอนออกเป็นจำนวน 16 บทเรียน ใช้เวลา 20 สัปดาห์  และหวังผลได้ว่าเรียนจบแล้วพยากรณ์ลายมือได้อย่างแน่นอน เพราะยึดหลักการเรียนการสอนในแนวทางสัทธรรม(ปริยัติ  ปฏิบัติ  ปฏิเวธ  รวมเรียกว่า สัทธรรม) คือธรรมแห่งความสำเร็จและเกิดมรรคผลซึ่งประกอบด้วย 1.ปริยัติ-เรียนรู้ทฤษฎี 2.ปฏิบัติ-ลงมือปฏิบัติฝึกฝน และ 3. ปฏิเวธ- ผลย่อมเกิดด้วย ข้อ1+2  ดังตารางต่อไปนี้ 
"การ ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและมากพอทำให้เกิดความชำนาญและมีความมั่นใจ  เมื่อเกิดความมั่นใจก็จะกล้าที่จะพยากรณ์ และยิ่งพยากรณ์ก็จะยิ่งมั่นใจมากขึ้น และเพิ่มขึ้น" 
   

 การเรียนรู้วิชาการในศาสตร์สาขาวิชาใด ๆ  หลักการหรือธรรมชาติ (Nature) ของวิชานั้น ๆ สำคัญยิ่ง จะข้ามขั้นตอนนี้ไปไม่ได้  การเรียนดนตรีโน๊ตดนตรี และทฤษฎีดนตรีคือปฐมบท    การเรียนวาดภาพก็มีหลักการและการเริ่มต้นจากพื้นฐานหลาย ๆ องค์ประกอบเป็นข้อกำหนดของแต่ละวิชาการ    หากมีฐานความรู้ที่ถูกต้องครบถ้วนดีแล้ว การพัฒนาต่อยอดใด ๆ ก็ย่อมเกิดขึ้นได้อย่างไม่สิ้นสุด  ข้าพเจ้าเองเป็นนักบัญชีก็เริ่มเรียนหลักบัญชีคู่ตั้งแต่ เดบิด เครดิต  เรียนรู้ว่าบัญชีมีประกอบด้วย 1 ทรัพย์สิน 2 หนี้สิน  3 ทุน  4 รายได้  5 ค่าใช้จ่าย (ต้องเรียกอย่างนี้) และหลักนี้ก็นำไปใช้เสมอตั้งแต่การเรียนรู้ขั้นพื้นฐานแม้จะขึ้นสูงถึงขั้นวิเคราะห์ก็ยังคงใช้หลักการนี้อยู่เช่นเดิม  ปัจจุบันการทำบัญชีมีเทคโนโลยีเข้ามารองรับ มีการพัฒนาโปรแกรมสำเร็จรูปมากมาย แต่ทั้งหลายทั้งหมดก็ต้องประยุกต์ให้เข้ากับหลักการและหลักพื้นฐานซึ่งเป็นธรรมชาติของวิชาบัญชี เพราะนั่นเป็นหลักที่เป็นตรรกะ และเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องเป็นอย่างนั้น
  การเรียนลายมือก็ไม่แตกต่าง ต้องมีหลักและยึดหลักการพื้นฐาน  สิ่งที่ต้องจดจำก็เริ่มตั้งแต่ลักษณะนิ้วมือ ประเภทของมือ เนินในมือ เส้นหลัก เส้นรอง เส้นอิทธิพล  เครื่องหมายสัญลักษณ์ดีหรือร้าย ทั้งหมดนี้มีความหมายหรือคำอธิบายที่เป็นลักษณะจำเพาะเหมือนเป็นบุคคลิกของแต่ละตัวละคร  ที่จะต้องจดจำให้ได้อย่างแม่นยำและขึ้นใจก่อน  จากนั้นจึงไปเชื่อมโยง หรือจับปฏิสัมพันธ์ของตัวละครเหมือนการผสมอักษรให้อ่านออกเขียนได้ และวิเคราะห์จากขั้นพื้นฐาน  ไปขั้นกลาง และขั้นสูงตามลำดับ หากข้ามขั้นตอนแล้วจะสัปสนและเบื่อหน่ายเข้าใจยาก จนหลายคนคิดว่าไม่มีตรรกหรือไม่มีเหตุผลรองรับในการเรียนรู้ดูลายมือ แต่ความจริงแล้วตัวเองข้ามขั้นตอน หรือจำตัวละครได้ไม่หมด ก็ไม่ต่างจากการต่อจิ๊กซอที่ชิ้นส่วนไม่ครบ เลยขาดความเชื่อมโยงที่จะได้เห็นภาพทั้งหมด ที่จะนำไปสู่ลัพธ์หรือผลพยากรณ์ที่ถูกต้องแม่นยำ
"หลักธรรมะ-พื้นฐานในการเข้าถึงความสำเร็จ คืออิทธิบาท ๔ -ฉันทะ-วิริยะ-จิตตะ-วิมังสา (คือ รักชอบในสิ่งที่เรียน-เพียรในสิ่งที่ทำ-จิตใจมุ่งมั่น-หมั่นทบทวนปรับปรุง) และหากต้องการความสำเร็จและมีชื่อเสียงได้ท่านให้หลักธรรมของปุตุชนไว้คือหลักฆราวาสธรรม ๔ -สัจจะ-ทะมะ-ขันติ-จาคะ (คือ ซื่อสัตย์-ฝึกฝน-อดทน-เสียสละ)"


มาเริ่มต้น เรียนลายมือด้วยตัวเอง

 พิเศษ สำหรับท่านที่ไม่สะดวกไปเรียนด้วยตัวเอง เรียนทางเนท ทางไลน์ได้
พร้อมชุดสื่อการเรียนการสอน เพียง 3,999 บาท
หลักสูตรพัฒนาสู่มืออาชีพ
แนะนำ 

เปิดรับสมัครเรียน ประจำปี 2557 รุ่น 2/2557
รับจำนวนจำกัด ไม่เกิน 10 คนต่อรุ่น
 อ.ธนพงศ์  หลักนครพล สอนเรียนลายมือ
ตั้งแต่บัดนี้  ถึง 5 กรกฎาคม 2557
 เริ่มเปิดการเรียนการสอนรุ่น 2/2557 ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่  6 กรกฎาคม 2557


 
 

หลักสูตรมืออาชีพ 5,999.บาท(พร้อมชุดสื่อการเรียน)
  •    เรียน 3 เดือน  7  สัปดาห์ รวม 21 ชั่วโมง
 
ฟรี ชุดสื่อการเรียนประกอบด้วย คู่มือหนังสือเรียนลายมือ+DVDบรรยายประกอบบทเรียนแต่ละบท+CDต้นฉบับหนังสือภาพสีและคลิปตัวอย่างการวิเคราะห์ลายมือ
**ฝึกงานตอบปัญหาจากลายมือจริง
**ฝึกงานออกงาน Event ดูลายมือ


คลิปตัวอย่าง บรรยากาศการเรียนการสอนจริง


หนังสือเรียนลายมือแบบ Ebooks ราคา 199 บาท

เรียนโดยพบกันหลักสูตรมืออาชีพ

บรรยากาศการเรียนการสอน เรียนกลุ่มไม่เกิน 10 คน
สอนด้วยภาพลายมือจริงคมชัดผ่านจอ LED 
บรรยากาศสถานที่และห้องเรียน-กว้างขวางสะดวกสบาย รุ่น 1/2556

 บรรยากาศสถานที่และห้องเรียน-กว้างขวางสะดวกสบาย รุ่น 2/2556

ฝึกงานจริงด้วยการออกงานการกุศล และตอบปัญหาลายมือฟรีทางเวปบอร์ด
ผู้เข้าเรียนลายมือเมื่อจบหลักสูตรแล้ว มีโอกาสได้ฝึกปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มพูนทักษะในการดูลายมือ ด้วยการออกงานดูลายมือจริง
ท่านแม่ชีอนันตา นาคบุญ ประธานดำเนินการก่อสร้างรันตนประสาทของมูลนิธิสถาบันแม่ชีไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์
รับมอบรายได้จากการดูลายมือเพื่อการกุศลให้กับสถาบันแม่ชีไทย ฯ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2556
 
 ผู้เรียนลายมือหลักสูตรมืออาชีพรุ่น 1/2556 และ 2/2556  ร่วมงานขั้นตอนปฏิบัติด้วยการดูลายมือเพื่อการกุศล ที่สถาบันแม่ชีไทยฯ  ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีการของการเรียนการสอนตามหลักสัทธรรม 3 คือ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวท เป็นการเพิ่มประสบการณ์ให้หลากหลายด้วยประสบการณ์จริง


  DVDเรียนลายมือ มีตัวอย่างลายมือจริงและบรรยายภาพวิเคราะห์ลายมือ
ประกอบด้วยการบรรยายสรุปบทเรียน,มีตัวอย่างภาพลายมือจริงจำนวนมากเพียงพอให้ศึกษาเปรียบเทียบ และตัวอย่างการวิเคราะห์ลายมือแบบต่าง ๆ เพื่อให้ได้เรียนรู้และทดสอบความเข้าใจ



 
โครงสร้างบทเรียนหลักในการเรียนประกอบด้วย
7บทหลัก และ16 บทเรียนหัวข้อย่อย ดังนี้
1.ลักษณะมือและนิ้วมือ  
    1.พื้นฐานนิ้วมือ
    2.พื้นฐานเล็บมือ
2.ประเภทของมือ  
    3.พื้นฐานลักษณะมือแบบต่าง ๆ
3.โครงสร้างของมือ  
    4. โครงสร้างหลักของมือและเนินต่าง ๆ ในมือ
4.เส้นลายมือ
    5.เส้นหลักในมือ
    6.เส้นรองในมือ
    7.เส้นจร เส้นเชื่อมต่าง ๆ
5.เครื่องหมายและเส้นอิทธิพลในมือ  
    8.เส้นอิทธิพลต่าง ๆ     
    9.เครื่องหมายในมือ
6.การเชื่อมโยงลายมือ  
    11.หลักในการพยากรณ์ 
    12.หลักการวิเคราะห์ลายมือ
7.การวิเคราะห์ลายมือ
    13.การวิเคราะห์ลายมือรวม 1
    14.การวิเคราะห์ลายมือรวม 2
    15.การวิเคราะห์ลายมือขั้นสูง 1
    16.การวิเคราะห์ลายมือขั้นสูง 2

   
  (หมายเหตุ ตารางเวลาเรียนจะปรับใหม่ตามเงื่อนไขที่แจ้ง -ในภาคเรียน 1/2557 เริ่มเรียน 16 กุมภาพันธุ์ 2557 แต่เนื้อหาการเรียนยังเป็นไปตามเดิม)

  สอบถามเพิ่มเติม  Line Id:handhoro99 
หรือโทร: 092 494 5445 ; 089 533 9903
ขอรายละเอียดเพิ่มเติมทางemail:handhoro99@gmail.com




 สถานที่เรียน
           
  อาคาร ศูนย์พัฒนาการแพยท์แผนไทย(โพธิสาร)  อยู่ขวามือ 50 เมตร จากปากซอย ถ.จรัญ ฯ ซอย 96/1


 หลักสูตรมืออาชีพ
     เรียนโดยพบกันประมาณ 3 เดือน ( 7 สัปดาห์ - 21 ช.ม.)
  • คู่มือหนังสือเรียนพร้อม DVD การเรียนด้วยตัวเอง มีตัวอย่างภาพลายมือจริงและตัวอย่างการวิเคราะห์ประกอบการ เรียนการสอน
  • เข้า ห้องเรียน วันอาทิตย์ สัปดาห์เว้นสัปดาห์ มี Workshop และการวัดผลเป็นรายคน พบกัน 7 ครั้ง 21 ชั่วโมง (ที่ห้องอบรมสัมนา สมาคมแพทย์แผนไทย ถนนจรัลจรัญสนิทวงศ์ ซอย 96/1)
  • คู่มือหนังสือเรียนพร้อม DVD รวมค่าจัดส่ง 5,999.-บาท 
  • รับจำนวนจำกัดไม่เกิน 10 คน ต่อ 1 ภาคเรียน


      
ข้อด้อยที่พบในการเรียนรู้ดูลายมือแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ
หรือเข้าใจยาก ก็ เพราะส่วนมากขาดตัวอย่างลายมือจริงและการฝึกฝนจากลายมือตัวอย่างลายมือจริงที่มากพอ  จากประสบการณ์จริงที่ประสบมาในการเรียนการสอนลายมือส่วนใหญ่จะใช้ภาพขาวดำ รวมถึงภาพพิมพ์ลายมือ เส้นสายลายมือก็ใช้วิธีขีดเขียน ลากเป็นเส้นสมมุติขึ้นเอง พอเจอลายมือจริงหรือดูลายมือจริง ๆ เข้าก็ งง.. ? ไม่แน่ใจ..?
     หลายคนที่เรียนลายมือกับหลายครู หลายอาจารย์ก็แล้ว  แต่ก็ยังไม่สามารถพยากรณ์ ลายมือได้ ทำไม จึงเป็นเช่นนั้น   หากทบทวนและวิเคราะห์ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้นก็พอจะหาคำตอบได้ว่า ขาดพื้นฐานการเรียนที่ถูกต้อง  ขาดตัวอย่างลายมือจากมือจริง  ขาดการทดสอบและลงมือปฏิบัติจริงหรือฝึกฝน (Practice) ที่มากพอ   ดังหลักธรรมะที่ว่าจะทำอะไรให้ได้ผลสำเร็จต้องเป็นไปตามหลักและครบขั้นตอนคือ 1. ปริยัติ (เรียนทฤษฎี) 2.ปฏิบัติ (ลงมือปฏิบัติจริง) 3.ปฏิเวธ  (ผลที่เกิดจากการปฏิบัติ) นั่นคือการฝึกฝนและลงมือปฏิบัติที่มากย่อมทำให้เกิดความมั่นใจ หรือความเชื่อมั่น(Confidence) กระบวนการทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าเห็นข้อด้อยและข้อบกพร่องของทั้งผู้สอนและผู้เรียน   จึงเห็นว่าการเรียนที่ได้ผลต้องนำลายมือจริงและมีจำนวนตัวอย่างมากเพียงพอ ที่จะทำให้ผู้ที่สนใจในศาสตร์นี้ได้เล่าเรียน จากพื้นฐาน และนำไปฝึกฝนทดสอบจนเกิดความชำนาญ  และเมื่อเรียนจบแล้วก็สามารถพยากรณ์ลายมือได้จริง   ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับตนเองในเบื้องต้น และคนในครอบครัว  รวมถึงคนใกล้ชิด เพราะในลายมือมีสัญญาณเตือน ที่สามารถบอกได้ถึงสภาวะปัจจุบัน และเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต   ซึ่งท่านสามารถให้คำแนะนำที่จะกระทำ หรือหลีกเลี่ยง รวมถึงงดเว้นการกระทำในแต่ละช่วงเวลา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในช่วงเวลาที่โชคดี  หรือผ่อนหนักให้เป็นเบาในช่วงเวลาที่ต้องพบกับปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ  แต่อีกหลาย ๆ ท่านก็อาจตั้งใจเรียนไว้เพื่อรู้ดูเป็นได้พอประมาณก็เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวอีกอย่างหนึ่ง
    นอกจากนั้นผมยังมี DVD ตัวอย่างลายมือจำนวนมากพอ พร้อมตัวอย่างการวิเคราะห์ เพื่อให้ท่านสามารถนำไปฝึกฝนฝึกทบทวนหรือวิเคราะห์ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจจนแตกฉาน หรือเชี่ยวชาญในการดูลายมือ สามารถพัฒนาเป็นนักพยากรณ์ลายมือได้ตั้งแต่สมัครเล่นหรือจนกระทั่งสามารถนำไปใช้ประกอบเป็นอาชีพได้.

        
หลักการและพื้นฐานการเรียนลายมือ  คือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเรียนต้องจำให้ได้เป็นหลักเบื้องต้นที่สำคัญที่จะละเลยไม่ได้   ก่อนอื่นต้องยอมรับความจริงก่อนว่าไม่มีอะไรง่ายในการที่จะเรียนและรู้จนเข้าใจได้ถ่องแท้   แต่ก็ไม่มีอะไรยากเกินกว่าที่จะเรียนและเข้าใจได้  พื้นฐานในการเรียนรู้ทุกวิชา ทุกสาขาที่จะเรียนรู้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเริ่มต้นด้วยหลักการที่ถูกต้อง   ยกเป็นกรณีตัวอย่างคือในการที่จะเรียน เขียนอ่านภาษาใด ๆ สิ่งที่ต้องเรียนและต้องจดจำให้ได้ก่อนก็คือตัวอักษร หรือพยัญชนะ  สระ และองค์ประกอบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงวรรณยุกต์ หรือเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เจ้าของภาษากำหนดให้ไว้  นี้คือสิงที่ต้องจดจำและต้องจำให้ได้ทั้งหมดไม่มีข้อยกเว้น (ส่วนใครจะจำได้ช้า ได้เร็ว หรือมีวิธีการจำอย่างไร ก็เป็นเรื่องเฉพาะตัว-สุ จิ ปุ ลิ คือหลักในการเรียนรู้ที่ดีที่สุด)  จากนั้นก็จึงค่อยไปผสมอักษรให้เป็นคำ เป็นประโยค และในที่สุดก็เขียนเป็นบทความ เป็นเรื่องราวได้สื่อสารได้  ส่วนจะเขียนได้ดี ให้น่าอ่าน น่าติดตาม ด้วยสำนวนโวหารหรือใด ๆ ก็ตามก็ต้องฝึกฝนเพิ่มขึ้นจึงจะทำเช่นนั้นได้
"ต้นไม้ จะสูงใหญ่เจริญขึ้นและคงอยู่ได้ด้วยรากฐานที่แข็งแรง   การเริ่มต้นใด ๆ ฐานรากเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญที่สุด  การเรียนรู้เรื่องใด ๆ ก็ต้องเป็นไปตามกฎของธรรมชาติเริ่มจากน้อยไปมาก เริ่มจาก 1..2..3..... การเรียนลายมือก็ไม่มีข้อยกเว้น"
ในเบื้องต้นก่อนตัดสินใจเรียน พึงตระหนักว่าการเรียนการสอนมีความเกี่ยวข้องกัน 3 ส่วนคือ    1. องค์ความรู้   2. ครูผู้สอน----> 3 ผู้เรียน
และผู้ที่จะเรียนลายมือต้องตั้งคำถามหรือสร้างเงื่อนไขกับตัวเองไว้ 5 คำถาม ดังนี้
1.ใครคือเราในอนาคต(อยากเรียนรู้ไว้หรือยากเป็นหมอดูลายมือ) ใครคือคนที่จะสอนวันนี้(who)
   คนที่ตั้งใจเรียนทำอาหารเพื่อไปเปิดร้านอาหารทำอาหารขาย กับคนที่เรียนเพื่อไปทำอาหารทานเอง ความใส่  ใจความตั้งใจย่อมแตกต่างกันมาก  การเรียนลายมือหรือการเรียนรู้ใด ๆ ก็คงเทียบเคียงได้ในหลักการนี้ ครูอาจารย์ผู้ให้คำแนะนำ สื่อการเรียนการสอนก็ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จำต้องนำมาพิจารณาประกอบ
"ผมตั้งใจให้ทุกคนที่เรียนได้รับความรู้จริง เริ่มตั้งแต่เป็นมือสมัครเล่น จนกระทั้งพัฒนาสู่มืออาชีพ"
2.อะไรคือเป้าหมายและอะไรที่เราจะได้จากการเรียน (what)
   การไปเชียงใหม่กับภูเก็ต สถานที่ท่องเที่ยวและบรรยากาศย่อมแตกต่างกันต้องตัดสินใจเลือก แม้จะมีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวพักผ่อน แต่ทิศทางหรือวิธีการไปก็แตกต่างในรายละเอียดและผลรับย่อมแตกต่างกัน
"ท่านที่เรียนต้องมีเป้าหมายไว้ในใจ แล้วท่านจึงจะได้ตามที่ตั้งใจไว้"
3.เวลาที่จะเรียนมีพอหรือไม่ จะเรียนเมื่อไหร่ดี (when)
    ความต่อเนื่องของการเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ๆ จำเป็นและสำคัญของผู้เรียน จึงควรเลือกหลักสูตรที่มีเวลาเหมาะสมกับตัวเอง ไม่อย่างนั้นจะเป็นการเสียเวลาไปเปล่าไม่ได้อะไรกับเวลาและทุนที่เสียไป
"เรียนเอง  เรียนทางเนท เรียนโดยพบกัน  ผลได้ย่อมแตกต่างกัน แต่เวลาก็และระยะทางก็เป็นหนึ่งปัจจัยกำหนด"
4.สถานที่ที่จะเรียนสะดวกหรือไม่ (where)
    สถานที่กับเวลาเป็นเรื่องสำคัญและสัมพันธ์กันอย่างมากของแต่ละคน เลือกอะไรที่่เหมาะที่่ใช่ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตร เรียนเอง  เรียนทางเนท หรือจะไปเรียนด้วยตัวเอง
"ผมคำนึงและตระหนักในเรื่องนี้มาก เรียนโดยพบกันมีห้องเรียนที่ดี มีสื่อการสอนที่พร้อม แต่ก็ไม่ละเลยในกรณีที่ท่านเรียนทางเนท  หรือเรียนด้วยตัวเอง"
5.ทำไมจึงเรียนลายมือ(มีศาสตร์พยากรณ์มากมาย)  เรียนไปทำไม (why)
    ลองย้อนไปอ่านทวนในข้อ 1 ที่ว่าใครคือเราหลังจากเรียนวิชาลายมือแล้ว  แต่ละคนอาจมีเป้าหมายในการเรียนไม่เหมือนกัน บางคนก็เรียนรู้เพื่อรู้ บางคนก็เรียนรู้ไว้เพื่อดูได้แบบสนุก ๆ เพิ่มสีสันต์  บางคนก็ต้องการเรียนรู้เพื่อการประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์ใด  ก็ต้องตั้งคำถามและมีคำตอบให้ตัวเองให้ได้ว่า ทำไม จึงอยากเรียนลายมือทั้งที่มีศาสตร์ในการพยากรณ์อีกมากมาย   
"ลายมือเป็นศาสตร์พยากรณ์ที่เป็นเรื่องเฉพาะตัวของแต่ละคน แม้คนที่เกิดเวลา วัน เดือน ปี เดียวกัน หรือฝาแฝด การพยากรณ์ก็แตกต่างกันไปตามเส้นสายลายมือที่ปรากฏ"
“รักในสิ่งที่เรียน  เพียรในสิ่งที่ทำ จิตมุ่งมั่น  หมั่นทบทวน” คือหัวใจของความสำเร็จตามหลักอิทธิบาท 4 คือต้องรักชอบและพอใจในสิ่งที่เรียนก่อนเป็นเบื้องต้น แล้วก็ตัดสินใจคือชอบใจเรียน 1(ฉันทะ),  ตั้งใจเรียน 2(วิริยะ), ฝืนใจและใส่ใจเรียน 3(จิตตะ), เข้าใจเรียน หรือเรียนให้เข้าใจ 4(วิมังสา)
มื่อทบทวนถามตอบคำถาม 5 ข้อดีแล้ว ยังมีความตั้งใจที่เรียนลายมืออยู่  ก็ติดตามต่อเงื่อนไขก่อนการตัดสินใจอีกครั้งในข้อ 6 
6.เรียนอย่างไร (how) มีวิธีเรียนที่เรียนแล้วได้ผล เรียนแล้วดูลายมือได้จริง ๆ หรือไม่
   สำคัญมากในเรื่องการเรียนอย่างไร  มีหลักสูตรอย่างไร  มีวิธีการเรียนการสอน และสื่อประกอบการเรียนการสอนที่เอื้อให้เกิดผลสำเร็จตามที่ตั้งใจหรือคาดหวังไว้ได้หรือไม่ แล้วก็ตัดสินใจและเริ่มต้น 
"Learning by doing หรือการเรียนโดยการฝึกปฏิบัติและลงมือทำจริง ๆ จากตัวอย่างจริง ๆ คือวิธีการเรียนการสอนที่ได้ผลมากที่สุด"

  
  ผมตั้งบทเรียนลายมือไว้ทั้งหมด 7 บทเรียนหลัก (7 หมวด)กับ 16 บทเรียนย่อย  เพื่อเรียนรู้ คือ
“การเรียนรู้ก็เปรียบได้กับการนำน้ำจากภาชนะใหญ่เพื่อกรอกเข้าไปในขวดที่ปากแคบ ต้องตักกรอกเข้าไปทีละน้อย”
  7 หมวดของข้อมูลเพื่อการเรียนลายมือ
      หมวดที่ 1.เรียนรู้นิ้วมือและเล็บมือ (นิสัย ความคิด การตัดสินใจ)
      หมวดที่ 2.เรียนรู้ประเภทหรือลักษณะมือ (บุคลิกลักษณะเฉพาะตัว วิสัยทัศน์ การแสดงออก)
      หมวดที่ 3.โครงสร้างของมือ เรียนรู้เนินในมือ (พลังขับเคลื่อน และพื้นฐานความต้องการทางกายภาพ ผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม)
      หมวดที่ 4.เรียนรู้เส้นลายมือ เส้นหลัก ลายมือเส้นรอง (ทางโน้มของการดำเนินชีวิตไปสู่เป้าหมาย ความสุข ความสำเร็จ ความทุกข์ ความผิดหวัง..)
     หมวดที่ 5.เรียนรู้เส้นอิทธิพลและเครื่องหมายในมือ (การส่งเสริม หรือปัญหาอุปสรรคของการดำเนินชีวิต)
     หมวดที่ 6.การเชื่อมโยงลายมือ สรุปเรื่องราวจากแผนที่ในมือ การนับอายุในมือ (ข้อบ่งชี้ว่าด้วยเงื่อนเวลาที่เหตุดีหรือร้ายจะแสดงผลในแต่ละช่วงอายุ)
     หมวดที่ 7.การวิเคราะห์ลายมือ(การชี้ชัดในเรื่องใด ๆ มีองค์ประกอบใดที่ต้องพิจารณาสนับสนุน)
เหตุดีเหตุร้ายจะเกิดขึ้นเมื่อใด พยากรณ์เป็นรายเดือน  เป็นรายปี
ทั้ง 7 หมวดนี้ จะได้จัดการเรียนการสอนออกเป็นจำนวน 16 บทเรียน ใช้เวลา 20 สัปดาห์  และหวังผลได้ว่าเรียนจบแล้วพยากรณ์ลายมือได้อย่างแน่นอน เพราะยึดหลักการเรียนการสอนในแนวทางสัทธรรม(ปริยัติ  ปฏิบัติ  ปฏิเวธ  รวมเรียกว่า สัทธรรม) คือธรรมแห่งความสำเร็จและเกิดมรรคผลซึ่งประกอบด้วย 1.ปริยัติ-เรียนรู้ทฤษฎี 2.ปฏิบัติ-ลงมือปฏิบัติฝึกฝน และ 3. ปฏิเวธ- ผลย่อมเกิดด้วย ข้อ1+2  ดังตารางต่อไปนี้ 
"การ ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและมากพอทำให้เกิดความชำนาญและมีความมั่นใจ  เมื่อเกิดความมั่นใจก็จะกล้าที่จะพยากรณ์ และยิ่งพยากรณ์ก็จะยิ่งมั่นใจมากขึ้น และเพิ่มขึ้น" 
   

 การเรียนรู้วิชาการในศาสตร์สาขาวิชาใด ๆ  หลักการหรือธรรมชาติ (Nature) ของวิชานั้น ๆ สำคัญยิ่ง จะข้ามขั้นตอนนี้ไปไม่ได้  การเรียนดนตรีโน๊ตดนตรี และทฤษฎีดนตรีคือปฐมบท    การเรียนวาดภาพก็มีหลักการและการเริ่มต้นจากพื้นฐานหลาย ๆ องค์ประกอบเป็นข้อกำหนดของแต่ละวิชาการ    หากมีฐานความรู้ที่ถูกต้องครบถ้วนดีแล้ว การพัฒนาต่อยอดใด ๆ ก็ย่อมเกิดขึ้นได้อย่างไม่สิ้นสุด  ข้าพเจ้าเองเป็นนักบัญชีก็เริ่มเรียนหลักบัญชีคู่ตั้งแต่ เดบิด เครดิต  เรียนรู้ว่าบัญชีมีประกอบด้วย 1 ทรัพย์สิน 2 หนี้สิน  3 ทุน  4 รายได้  5 ค่าใช้จ่าย (ต้องเรียกอย่างนี้) และหลักนี้ก็นำไปใช้เสมอตั้งแต่การเรียนรู้ขั้นพื้นฐานแม้จะขึ้นสูงถึงขั้นวิเคราะห์ก็ยังคงใช้หลักการนี้อยู่เช่นเดิม  ปัจจุบันการทำบัญชีมีเทคโนโลยีเข้ามารองรับ มีการพัฒนาโปรแกรมสำเร็จรูปมากมาย แต่ทั้งหลายทั้งหมดก็ต้องประยุกต์ให้เข้ากับหลักการและหลักพื้นฐานซึ่งเป็นธรรมชาติของวิชาบัญชี เพราะนั่นเป็นหลักที่เป็นตรรกะ และเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องเป็นอย่างนั้น
  การเรียนลายมือก็ไม่แตกต่าง ต้องมีหลักและยึดหลักการพื้นฐาน  สิ่งที่ต้องจดจำก็เริ่มตั้งแต่ลักษณะนิ้วมือ ประเภทของมือ เนินในมือ เส้นหลัก เส้นรอง เส้นอิทธิพล  เครื่องหมายสัญลักษณ์ดีหรือร้าย ทั้งหมดนี้มีความหมายหรือคำอธิบายที่เป็นลักษณะจำเพาะเหมือนเป็นบุคคลิกของแต่ละตัวละคร  ที่จะต้องจดจำให้ได้อย่างแม่นยำและขึ้นใจก่อน  จากนั้นจึงไปเชื่อมโยง หรือจับปฏิสัมพันธ์ของตัวละครเหมือนการผสมอักษรให้อ่านออกเขียนได้ และวิเคราะห์จากขั้นพื้นฐาน  ไปขั้นกลาง และขั้นสูงตามลำดับ หากข้ามขั้นตอนแล้วจะสัปสนและเบื่อหน่ายเข้าใจยาก จนหลายคนคิดว่าไม่มีตรรกหรือไม่มีเหตุผลรองรับในการเรียนรู้ดูลายมือ แต่ความจริงแล้วตัวเองข้ามขั้นตอน หรือจำตัวละครได้ไม่หมด ก็ไม่ต่างจากการต่อจิ๊กซอที่ชิ้นส่วนไม่ครบ เลยขาดความเชื่อมโยงที่จะได้เห็นภาพทั้งหมด ที่จะนำไปสู่ลัพธ์หรือผลพยากรณ์ที่ถูกต้องแม่นยำ
"หลักธรรมะ-พื้นฐานในการเข้าถึงความสำเร็จ คืออิทธิบาท ๔ -ฉันทะ-วิริยะ-จิตตะ-วิมังสา (คือ รักชอบในสิ่งที่เรียน-เพียรในสิ่งที่ทำ-จิตใจมุ่งมั่น-หมั่นทบทวนปรับปรุง) และหากต้องการความสำเร็จและมีชื่อเสียงได้ท่านให้หลักธรรมของปุตุชนไว้คือหลักฆราวาสธรรม ๔ -สัจจะ-ทะมะ-ขันติ-จาคะ (คือ ซื่อสัตย์-ฝึกฝน-อดทน-เสียสละ)"


มาเริ่มต้น เรียนลายมือด้วยตัวเอง

 พิเศษ สำหรับท่านที่ไม่สะดวกไปเรียนด้วยตัวเอง เรียนทางเนท ทางไลน์ได้
พร้อมชุดสื่อการเรียนการสอน เพียง 3,999 บาท
หลักสูตรพัฒนาสู่มืออาชีพ
แนะนำ